อราบิก้า กับ โรบัสต้า ต่างกันอย่างไร แล้วตัวไหนเหมาะกับคุณ?

3.  ความแตกต่างในเรื่องกลิ่น ระหว่าง กาแฟโรบัสต้า กับ กาแฟอาราบิก้า

• กลิ่นของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า (Arabica) : จะให้กลิ่นของกาแฟที่ชงแล้ว ที่หอมละมุนของกาแฟผสมกับกลิ่นที่คล้ายกลิ่นโกโก้ จึงนิยมชงพร้อมกับผสมผงโกโก้ลงไปเล็กนอยเพื่อให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายยา่มได้กลิ่นของกาแฟ เหมาะสำหรับชงเป็นกาแฟดำ เพื่อให้คุณสามารถเสพกลิ่นของเมล็ดกาแฟได้อย่างเต็มที่
• กลิ่นของเมล็ดกาแฟโรบัสต้า (Robusta) : จะให้กลิ่นของกาแฟที่ชงแล้ว จะไม่หอมเท่ากาแฟอาราบิก้า โดยจะให้กลิ่นแบบความธรรมชาติ มีกลิ่นดินและยางไม้ผสมอยู่ เป็นกลิ่นของกาแฟเข้ม ๆ จึงนิยมนำมาชงกาแฟที่ต้องผสมกับนม อย่าง กาแฟคาปูชิโน่ และ กาแฟลาเต้

4.  ความแตกต่างในเรื่องสารอาหาร ระหว่าง กาแฟโรบัสต้า กับ กาแฟอาราบิก้า

• สารอาหารของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า (Arabica) : มีปริมาณน้ำตาลและกรดมากกว่าโรบัสต้า แต่ก็ไม่ได้มีมากจนส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้
• สารอาหารของเมล็ดกาแฟโรบัสต้า (Robusta) : มีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าอาราบิก้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกาแฟที่สามารถทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าไปได้ทั้งวัน

กาแฟทั้งสองชนิดยังมีประโยชน์ในเรื่องการเพิ่มไขมันดีให้กับร่างกาย และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ในกรณีที่คุณบริโภคแบบกาแฟดำ

5.  ความแตกต่างในเรื่องราคา ระหว่าง กาแฟโรบัสต้า กับ กาแฟอาราบิก้า

• ราคาของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า (Arabica) : เนื่องจากว่ากาแฟอาราบิก้า ปลูกได้ยากกว่า เพราะความบอบบางของสายพันธุ์ และปัญหาการรบกวนของศัตรูพืช ทำกาแฟอาราบิก้าให้มีราคาสูง
• ราคาของเมล็ดกาแฟโรบัสต้า (Robusta) : ด้วยความทนทานของสายพันธุ์ และมีศัตรูพืชตามธรรมชาติน้อย จึงทำให้กาแฟโรบัสต้า มีราคาถูกให้มักนิยมใช้สำหรับการทำกาแฟสำหรับรูปหรือ Dry Coffee