Git checkout คือ คำสั่งสำหรับชี้เส้นค้าไปยัง Branch และชี้ตำแหน่งของ HEAD ที่เราต้องการไปภายใน Branch มักถูกใช้งานเกี่ยวกับการย้อนดูไฟล์ตาม Commit SHA เพื่อตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมย้อนเราว่า ในแต่ละ Commit ที่เพิ่มขึ้นมา โปรแกรมมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนใดไปบ้าง
ตัวอย่างเหตุการณ์ ในการใช้งาน GIT Checkout
กรณีที่ 1: เปลี่ยน Branch ใน GIT Repository
กรณีนี้เป็นกรณีที่เป็นพื้นฐานที่สุดของคำสั่ง git checkout ตัวอย่างการใช้งาน
กรณีที่ 2: เมื่อเจอปัญหา Git pull code ไม่ได้
โดยปรกติแล้วเรามักจะเจอ 2 ปัญหา ในกรณีที่ pull code ไม่ได้ นั้นก็คือ
- error: Your local changes to the following files would be overwritten by merge: คือ Git ตรวจสอบพบว่า code ฝั่ง Remote และ Local ไม่ตรงกัน
- error: The following untracked working tree files would be overwritten by merge: คือ Git ตรวจพบไฟล์ในฝั่ง Local ยังไม่ได้ comit เข้า Stage ขณะเดียวกัน ฝั่ง Remote ก็มีไฟล์นี้อยู่แล้ว
ทั้ง 2 ปัญหาสามารถคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ด้านบน ส่วนตัวอย่างการใช้งาน git checkout สำหรับกรณีนี้สามารถทำได้ดังนี้
จากรูปตัวอย่าง กรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อ มีการแก้ไขไฟล์บน Local repo หากเรามั่นใจว่าฝั่ง Local ใหม่กว่าฝั่ง Remote เราก็สามารถทำการ Commit ไฟล์และ push ขึ้น Remote ได้แต่ในทางกลับกันหากว่าไฟล์ฝั่ง Remote ใหม่กว่าเราสามารถใช้คำสั่ง checkout สำหรับย้อนข้อมูลในไฟล์ให้กลับไปเป็น Version ก่อนทำการแก้ไขใน Local
git checkout wp-admin/ << ใช้ในกรณีที่ ต้องการ checkout ไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ภายใน folder นั้น
กรณีที่ 3: เมื่อต้องการทำ git ย้อน commit
ในการทำงานจริง หากเราต้องการดูว่าเมื่อ 1 อาทิตย์ที่แล้วหน้าตาของโปรแกรมเป็นอย่างไร มี Feature อะไรบ้าง หากโปรเจคที่เราทำอยู่มีการใช้งาน GIT เราก็สร้างใช้งานคำสั่ง git checkout ได้เช่นกัน
จากรูปด้านบนหากเราต้องการย้อนไปที่ Commit ID "efebef3" เพื่อตรวจสอบดูว่าก่อนทำการ Update recmmend plugin เว็บไซต์ทำได้หรือไม่ หน้าตาเป็นอย่างไร โดยเราสามารถทำได้ ดังนี้
git checkout efebef3 << ใช้คำสั่ง checkout เพื่อ Pointer ไปยัง Commit ID
git checkout <branch name> << หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้ว ใช้คำสั่ง checkout เพื่อกลับมายัง Branch ปัจจุบัน
